top of page
Search

What does it mean to be a leader?

  • Writer: Klangjai
    Klangjai
  • Jun 7, 2024
  • 2 min read

KJ’s leadership series #1


I have the intention to start this series of blogs to help our junior team leaders understand what it means to be a ‘good leader’. It will be a long and confusing journey as we slowly build this very complex competency together, myself included. Note here that my leadership version might differ from what you have learnt elsewhere. I think the world needs great leaders and great leaders are very different from effective managers. Let’s dive a litter deeper into what a leader is and what it really means for all of us. Oh, by the way, all of my junior leads have asked me to do this in Thai… so here we go.


Why are we here? เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง


สำหรับพวกเราที่เริ่มเข้ามาอ่าน blog นี้ เดาว่ามาอ่านเพราะตอนนี้ไฟลนก้นละ ฉันทำงานอยู่ดีๆถูกโปรโมทมาเป็น Teamleader หือออ มันคืออะไรกัน Congratulations!! น้องๆกำลังเดินทางเข้าสู่จุดแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จากการที่เราเคยเป็น High Performer ใน Role ของคนทำงาน มาเป็น Average-low Performer ใน Role ของ Team leader 😅 คุณทัชที่ปรึกษาสุด cool ของทีมเราพูดไว้เหมือนกับข้อความในหนังสือเล่มนึงที่พี่เคยอ่านว่า คนที่ทำงานได้ดีมากจะถูกโปรโมทขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงวันที่เค้าทำงานไม่ได้ ซึ่งมันจริงมากๆเลย เหมือนเรามีเท้าของเด็กตัวเล็กๆแต่ต้องขยับไปใส่ร้องเท้าที่เบอร์มันใหญ่เกินขนาดของเท้าหรือความสามารถของเราทำให้เราโตไม่ทันบทบาทที่เราได้รับ ซึ่งเป็นสภาวะที่พี่คิดว่าจำเป็นและควรจะเกิดขึ้นเพื่อให้เกิดการเติบโตผ่านการเริ่มทำงานในบทบาทที่สูงขึ้น ยากขึ้น และซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆในองค์กร วันนี้เรามาคุยเรื่องนี้กันให้ชัดอีกหน่อยว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้อย่างไรกันดี



You and your Leadership role


Leader คือใครเหรอ?


Leader คือคนที่กินข้าวเป็นคนสุดท้าย (นี่มาจากหนังสือที่พี่ชอบมากชื่อ Leaders eat last, Simon Sinek) หมายความว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้รับ Privilege ขึ้นมาเป็นผู้นำ สิ่งที่เราต้องแลกมาคือความเต็มใจในการแสดงออกที่ทำให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับความต้องการของคนอื่นมากกว่าความต้องการของตัวเอง เอาภาษาอังกฤษไปด้วย… Great leaders truly care about those they are privileged to lead and understand that the true cost of the leadership privilege comes at the expense of self-interest. จำง่ายๆเลยว่าหน้าที่ของเราคือ Taking care of the people responsible for the work ยิ่งเรา Highup ในองค์กรเท่าไหร่อัตราส่วนของการทำงานจะเปลี่ยนจาก Work focused มาเป็น People focused มากขึ้นเท่านั้น


เป้าระดับ Blue-sky ของคนเป็นผู้นำ


ผู้น้ำดีๆเป็นยังไง? พี่ชอบ definition นี้จาก John Quincy Adams (เค้าเป็นคนสำคัญคนหนึ่งแหละ ไปหากันดู) เค้าบอกว่า “If your actions inspire others to dream more, learn more, do more and become more, you are a leader” คมมั้ย :) ถ้าเราเริ่มเป็นผู้นำในระดับเล็กด้วยความตั้งใจว่าเราจะนำพาคนในทีมของเรา ในองค์กรของเราให้พวกเขากล้าที่จะฝันถึงอนาคตที่ยิ่งใหญ่ ยอมที่จะลงแรงและทุ่มเทเวลาในการเรียนรู้และทำมากขึ้นด้วยทุกอย่างที่เขามีเพื่อเป้าหมายของทีม เราจะเข้าใจว่ามัน ‘Priviledge’ ยังไงที่เราได้มีส่วนผลักดันชีวิตของคนรอบๆเราให้ทุกวันพวกเขาตื่นมาด้วยความสุขและแรงบัลดาลใจในการทำงานที่มีคุณค่า มีความหมาย ผ่านการเติบโตไปด้วยกัน


องค์กรของเราเป็นแบบไหนขึ้นอยู่กับว่าเรามีผู้นำแบบไหน พี่อยากให้เรามองคนในองค์กรเป็น “คน” ไม่ใช่ “ลูกจ้าง” ไม่ใช่ “พนักงาน” หรือตำแหน่งปลอมๆทั้งหลายแหล่เราตั้งขึ้นมาเพื่อสื่อสารหรือบอกคนอื่น อย่าลืมว่าคำว่าผู้นำเป็นคำที่คนอื่นเรียกเราเพราะเราคู่ควร (We earn it) เป็นคำที่สื่อถึงการยอมรับไม่ใช่การแต่งตั้ง การยอมรับไม่ใช่สิ่งที่เราบังคับได้ เวลาคนที่เข้ามาทำงานในองค์กรเราเราอยากทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเข้ามาในครอบครัวที่ “ปลอดภัย” และอบอุ่น เราต้องดูแลทุกๆ Relationships เหล่านี้ด้วยความใส่ใจ ช่วยกันสร้าง “The right conditions” เพื่อให้ทุกคนสามารถทำได้ดีที่สุด เราอยากให้คนทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาได้รับการต้อนรับและรู้สึก “Belong here” ให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง คำว่า “ปลอดภัย” เนี่ยมันลึกซึ่งมาก ลองไปถามน้องๆที่ทำงานกับเราดูว่าพวกเขารู้สึกปลอดภัยแค่ไหนเวลาทำงานกับเรา (How safe do you feel where you work?) เราจะรู้เลยว่าผู้นำได้ทำหน้าที่ในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยไว้ได้แข็งแรงขนาดไหน


หน้าที่หลักของคนเป็นผู้นำ


  • Show them the North Star ผู้นำต้องรู้ว่าจะพาทีมไปไหน ที่สำคัญกว่านั้นเราต้องมีวิธีสื่อสารให้ทุกคน ย้ำ “ทุกคน” เข้าใจว่า “ทำไม” เราต้องไปสู่จุดนั้นให้ได้ มันมีความสำคัญ มีความหมายอย่างไรต่อเราเอง จะไปช่วยแก้ปัญหาอะไร สร้าง Impact อย่างไรกับสังคมโลก Note here ว่าเราไม่จำเป็นต้องสร้าง Vision ใหม่ขึ้นมาเป็น North Star ใหม่ตลอด เราสามารถไปร่วมกันกับคนอื่นแก้ปัญหาสู่เป้าหมายเดียวกันก็ได้ถ้าเราเชื่อและเห็นว่ามันพอที่จะสร้างแรงบัลดาลใจและเป็นพลังให้ชีวิตการทำงานของเราได้


  • Build a strong circle of safety เพื่อให้คนในทีมทำงานอย่างสบายใจว่าคนข้างๆ ข้างบน ข้างล่างจะปกป้องดูแลกันเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ในโซนที่ปลอดภัยนี้เราต้องสร้าง Healthy working envirnment ให้พวกเขามีอิสระที่จะตัดสินใจ หรือให้ดีกว่านั้นคือรู้สึกมี ‘Power and control’ ที่จะเลือกทำในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าใช่ นี่คือสาเหตุที่เราเลือกวิธีการทำงานแบบ Agile เพื่อ Empower ให้คนในทีมมีอิสระในการทำงานตามเป้าที่พวกเขาเลือกเองด้วยวิธีการที่พวกเขาคิดเอง สิ่งเหล่านี้ถ้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขใจการทำงานในระยะยาว ไปลองอ่าน Whitehall studies ที่เค้าทำเรื่อง Stree-related health problem แล้วจะรู้ว่าสิ่งแวดล้อมที่คนทำงานต้องทำตามคำสั่งแล้วไม่มีโอกาสได้เลือก ตัดสินใจ หรือรู้สึกว่าตัวเองควบคุมอะไรไม่ได้ สิ่งเหล่านี้สร้างให้เกิดความเครียดและปัญหาสุขภาพกายและจิตใจต่อคนในองค์กรอย่างมาก


  • Take the bullet คนที่เป็นผู้นำมีหน้าที่รับผิดถ้ามีอะไรผิดพลาด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ต้องทำให้ได้ถ้าจะขึ้นมานำคนอื่น หลายคนคิดว่าผู้นำต้องรับทั้งผิดและชอบ แต่พี่คิดว่าเรารับผิด ส่วนความชอบต้องยกให้ทีม They deserve all the praise, we are responsible for the failures.


  • Care about feelings (yes! feelings) คนเป็นผู้นำมีหน้าที่ Taking care of the people responsible for the work เรามีหน้าที่ดูแลคน (The whole person) และความรู้สึกของพวกเขา อ่านมาถึงตรงนี้สำหรับบางคนที่มาจากสาย Technical/Engineering มากๆ อ่านแล้วจะคิดว่า เรื่องความรู้สึกพวกนี้มัน Fluffy ไปรึเปล่า (กลางใจเธอสอนอะไรฉันเนี่ย!) คำตอบคือ No, this is a very serious issue. พี่เรียนรู้จากความผิดพลาดต่างๆตลอด 10 กว่าปีที่ทำงานมาว่า “สิ่งที่คนรู้สึก” ถึงแม้จะเป็นส่วนที่วัดยาก สังเกตุเห็นยาก หา Relationship สู่ ROI แทบไม่เจอ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการตอบคำถามว่าเรา “รักงานที่เราทำรึเปล่า” การมีผู้นำที่เข้าใจเราสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่และ Sense of belonging ในองค์กร ความรู้สึกที่เกิดจากผู้นำที่แสดงออกว่าสิ่งที่เราทำมีคุณค่า(Feel appreciated) มันมีความหมายเกินค่าตอบแทนและเงินเดือนหลายเท่านัก

  • Know when to break to the rules ผู้นำทำในสิ่งที่ควรทำ และ encourage ให้ทีมทำในสิ่งที่ควรทำด้วย ในบางครั้งการทำ “The right things” จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราไม่ทำตามกฎต่างๆขององค์กร หน้าที่ของเราคือนำพาทุกคนข้ามผ่านข้อจำกัดพวกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ กฎในองค์กรส่วนมากแล้วถูกคิดขึ้นมาสำหรับการทำงานในสถานการณ์ปรกติ ไม่มีใครสามารถคิดกฎให้ทุกคนทำตามในทุกสถานการณ์ได้ ฉะนั้นถ้าคนในทีมเริ่มใช้กฎมาเป็นข้ออ้างในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ให้เรารู้ได้เลยว่าเรามีปัญหา


เอาหละพี่พักไว้ตรงหน้าที่ประมาณนี้ก่อน คิดว่ายังมีอีกเยอะเลยที่เราจะคุยกันต่อเพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้นำที่ดีขึ้น ถ้าอยากอ่านเพิ่มเติมเรื่องที่พี่คุยให้ฟัง ตามไปอ่านหนังสือกันได้นะค้าาาา Bye for now :)


References:

Sinek, Simon. Leaders Eat Last: Why Some Teams Pull Together and Others Don’t. Portfolio/Penguin, 2014.

 
 
 

Comentários


bottom of page